ไม่กี่ปีให้หลัง แก้วร่วมประเวณีกับขจร และแก้วตั้งครรภ์ เพื่อธำรงเกียรติยศของวงศ์ตระกูล หลวงวิสนันท์เดชาจึงสั่งให้วาดไปเรียกจันกลับพระนคร แล้วเสนอให้จันรับเป็นบิดาของบุตรในครรภ์แก้วแทนขจร จันตกลงโดยมีเงื่อนไขว่า หลวงวิสนันทเดชาต้องโอนบ้านและที่ดินให้แก่ตน ทั้งนี้ เพื่อชำระความแค้นเคืองที่ตนมีต่อหลวงวิสนันทเดชามาตั้งแต่เยาว์วัย หลวงวิสนันทเดชารับคำอย่างเสียมิได้ เมื่อสมประสงค์แล้ว จันก็รุดไปหาไฮซินธ์ แต่พบว่าไฮซินธ์จากโลกนี้ไปแล้วเพราะไข้รากสาดน้อย ขณะที่วาดเมื่อเห็นว่าเรื่องราวทั้งหลายคลี่คลายลงด้วยดีแล้วก็ลาไปบวชเป็นนางชีอยู่ที่เมืองนครสวรรค์โดยไม่สึกอีก เวลานั้นเอง แก้วให้กำเนิดบุตรชายหนึ่งคน แต่เพราะทารกนั้นเกิดจากการร่วมประเวณีในหมู่ญาติ จึงมีภาวะโง่เขลาเบาปัญญาอย่างที่สมัยใหม่เรียกว่า ปัญญาอ่อน และจันตั้งชื่อให้ทารกนั้นว่า ปรีย์-อัปรีย์ วิสนันท์ แก้วเสียใจ และเริ่มมีความสัมพันธ์ทางเพศกับบุญเลื่อง เมื่อจันทราบเข้า ก็ข่มขู่ให้เธอมีบุตรกับเขา แต่แก้วมิยินยอม เพราะใจยังจงเกลียดจงชังจัน จันจึงข่มขืนกระทำชำเราเธอกระทั่งเธอตั้งครรภ์ อย่างไรก็ดี แก้วไม่ต้องการให้กำเนิดบุตรของจัน จึงให้บุญเลื่องช่วยทำให้ตนตกเลือดจนแท้ง เมื่อสภาพการณ์ในบ้านเป็นเช่นนี้ จันจึงใฝ่หาความสุขทางกามคุณแต่ถ่ายเดียว โดยร่วมประเวณีกับสาวใช้ แม้กระทั่งเบื้องหน้ารูปดารา มารดาผู้วายชนม์ของตน ทำนองเดียวกับที่หลวงวิสนันทเดชาได้กระทำมาแล้วทั้งสิ้น อยู่มาวันหนึ่ง หลวงวิสนันทเดชามาพบเห็นจันกับบุญเลื่องกำลังสมสู่กัน ก็ให้รู้สึกเจ็บช้ำไปทั้งกายใจถึงกับล้มลงและเป็นอัมพาต จันจึงเริ่มตั้งคำถามแก่ตนเองว่า เป็นไฉนตนถึงไม่สามารถหลุดพ้นจากวัฏจักรตัณหาราคะทำนองเดียวกับที่หลวงวิสนันทเดชาก่อขึ้น ที่สุดแล้ว เรื่องก็ให้คำตอบว่า เพราะจันเป็นหน่อเนื้อของดาราผู้ถูกรุมโทรมนั่นเอง ดูหนัง